ชนิด และประเภทของไวน์ (Type of Wine) เป็นสเต็ปแรก ๆ ที่เหมาะแก่การเริ่มต้นทำความรู้จักกับโลกของไวน์ (Wine) แม้ว่าหลาย ๆ ท่านอาจคิดว่า การแยกแยะชนิดของไวน์ เช่น ไวน์แดง (Red Wine) และไวน์ขาว (White Wine) สามารถทำได้ง่ายเพียงใช้ตาเปล่าเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว ไวน์แต่ละชนิด แต่ละประเภท ต่างก็มีคาร์แรคเตอร์เฉพาะตัว เช่น ความฝาด (Tanin) กลิ่น ปริมาณน้ำตาล ปริมาณแอลกอฮอล์ และอื่นๆ ที่ส่งผลถึงรสชาติ และการตัดสินใจขณะเลือกซื้อไวน์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งตามพันธุ์องุ่นที่ใช้ในการผลิต (Grape Varities) หรือแหล่งผลิต (Wine Region)
แต่ในครั้งนี้เราจะจำแนกไวน์ (Wine) ตาม 5 สไตล์หลัก ได้แก่ ไวน์ขาว (White Wine), ไวน์แดง (Red Wine), ไวน์โรเซ่ (Rose Wine),ไวน์หวาน (Dessert Wine) และไวน์สปาร์คกลิ้ง (Sparkling Wine) เป็นต้น
1. ไวน์ขาว
หลายท่านอาจเข้าใจมาก่อนว่า ไวน์ขาว (White Wine) ทำมาจากองุ่นเขียวเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วสามารถใช้องุ่นแดง หรือองุ่นดำ ในการผลิตไวน์ขาวได้เช่นกัน โดยแยกเปลือกที่มีพิกเมนท์ (Pigment) สีแดงออก แล้วนำเพียงน้ำองุ่นไปทำไวน์ (Wine) ไวน์ขาว (White Wine) มักจะมีรสเปรี้ยวเด่น, สดใส หรือครีมมี่ (Creamy) โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยการผลิตต่างๆ พันธุ์องุ่นแนะนำสำหรับเหล่าบีกินเนอร์ (Wine Beginner) ได้แก่ ชาร์ดอนเนย์ (Chardonnay), รีสลิง (Riesling), โซวีญง บลอง (Sauvignon Blanc) และมอสคาโต้ (Moscato) เป็นต้น
Food Pairing : อาหารที่มักจะนำมาจับคู่กับไวน์ขาว ได้แก่ ชีสเนื้อนุ่ม (Soft Cheese), ขนมปังขาว, เนื้อปลา, อาหารทะเล หรือสลัด (ดูการแพร์ริ่งไวน์ขาว และสลัดได้ ในรีวิวร้าน Skyve, Singapore คลิกเลย)
Recommend Wine Glass : เราแนะนำแก้วไวน์ขาว (White Wine Glass) ทรงสูง เช่น ดีซายเอ้อร์ คริปส์ ไวท์ (Desire Crisp White) สำหรับไวน์ขาวที่มีรสเด่นเปรี้ยว และสดใส ส่วนไวน์ขาวที่โดดในเรื่องกลิ่นอโรมา (Aroma) ลองจับคู่กับแก้วที่มีกระเปาะค่อนข้างสั้น เช่น แก้วไวน์ชาร์ดอนเนย์ (Chardonnay Wine Glass) หรือแก้วดีซายเอ้อร์ ริช ไวท์ (Desire Rich White) ที่มีนวัตกรรมแอร์ลูเมย์ (Aerlumer) ก็จะช่วยกระจายความหอมของช่อดอกไม้ หรือผลไม้ในไวน์ ได้เป็นอย่างดี
2. ไวน์แดง
กรรมวิธีการผลิตไวน์แดง (Red Wine) ไม่ได้แตกต่างจากไวน์ขาว (Red Wine) เท่าใดนัก แต่สาเหตุที่ทำให้ไวน์แดงมีสีแดง นั่นเป็นเพราะ มีการเติมเปลือกองุ่น (Grape Skin), ขั้วองุ่น (Grape Pip) รวมถึงเมล็ด (Seed) เข้าไปในกระบวนการหมักด้วย ต่างจากไวน์ขาว (White Wine) ที่คัดเปลือก และส่วนอื่น ๆ ทิ้งไป นอกจากนั้น ไวน์แดงยังถูกหมักในอุณหภูมิสูง เพื่อสกัดเอาสี, รสฝาดของแทนนิน (Tanin), กลิ่น และรส ออกมา ซึ่งจะมีความเข้มข้นแตกต่างกันไป ตามระยะเวลาการทิ้งเปลือกองุ่นไว้กับน้ำองุ่นในขั้นตอนการหมัก พันธุ์องุ่นไวน์แดงสำหรับบีกินเนอร์ (Beginner) ได้แก่ คาร์เบอเน โซวีญง (Cabernet Sauvignon), แมร์โล (Merlot), ปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) และซินฟานเดล (Zinfandel) เป็นต้น
Food Pairing: การแพร์ริ่งไวน์แดงคู่กับอาหาร ควรดูความหนักเบาจากบอดี้ (Body) ของไวน์ ประกอบ หากเป็นไวน์แดงแบบไลท์บอดี้ (Light Body Red Wine) สามารถจับคู่ได้กับ ผักย่าง, เนื้อเป็ด หรือไก่ แบบมีเดียมบอดี้ (Medium Body) จนถึงฟูลบอดี้ (Full Body) สามารถเข้ากันได้ดีกับอาหารจานเนื้อ เช่น สเต็ก, แฮมเบอร์เกอร์ หรือเนื้อรมควัน แต่่ใครสนใจการแพร์ริ่งไวน์กับอาหารเอเชีย (Asian Cuisine) คลิกดูได้ที่นี่
Recommended Wine Glass: สำหรับไวน์แดงที่ผ่านการบ่มมามากกว่า 5 ปี แนะนำแก้วไวน์แดงที่มีกระเปาะแก้วกว้างเป็นพิเศษ เพื่อให้ไวน์หายใจ (Oxidation) ได้ดีขึ้น เช่น แก้วไวน์เบอร์กันดี กรองค์ (Burgundy Grande Wine Glass) หรือ แก้วไวน์เบอร์กันดี (Burgundy Wine Glass) เป็นต้น
3. ไวน์โรเซ่
ไวน์โรเซ่ (Rose Wine) คือ ไวน์สีชมพูดอกกุหลาบ ผลิตขึ้นจากองุ่นแดง หรือองุ่นดำ แต่ในกระบวนการหมัก เปลือกองุ่น หรือส่วนอื่น ๆ จะถูกทิ้งให้สัมผัสกับน้ำองุ่นเพียงช่วงสั้น ๆ ราว 12-36 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนั้น การผลิตไวน์โรเซ่ ที่เป็นการนำไวน์แดง (Red Wine) และไวน์ขาว (White Wine) มาเบลนด์ (Blended) เข้าด้วยกัน ก็เป็นอีกวิธีที่นิยมใช้เช่นกัน ไวน์โรเซ่ มีรสชาติที่หลากหลาย ตั้งแต่ดราย (Dry) ไปจนถึงหวาน, มีสีชมพูอ่อน ไปจนถึงสีชมพูเข้ม และความฝาดต่ำ (Tannin) อีกด้วย
Food Pairing: ไวน์โรเซ่ (Rose Wine) มักจะเข้ากันได้ดีกับอาหารที่รสชาติไม่จัดมาก เช่น เนื้อปลา, เนื้อไก่ รวมไปถึงผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ก็ได้เช่นกัน
4. ไวน์หวาน
ไม่ได้มีคำนิยามตายตัวสำหรับไวน์หวาน (Dessert Wine) โดยส่วนใหญ่ ไวน์หวานนิยมเสิร์ฟเพื่อดื่มคู่กับของหวาน แต่ในบางประเทศ เช่น อังกฤษ มักดื่มไวน์ขาวหวาน (White Dessert Wine) เพื่อเรียกน้ำย่อยก่อนมื้ออาหาร และดื่มไวน์แดงหวาน (Red Dessert Wine) เพื่อล้างปากหลังมื้ออาหาร ไวน์หวาน ยังถูกแยกย่อยออกไปเป็น พอร์ท (Port), ทาวนี่ (Tawny) หรือเชอร์รี่ (Sherry) เป็นต้น
Food Pairing: นอกจากขนมหวานแทบทุกชนิดแล้ว ไวน์หวาน (Dessert Wine) ยังสามารถจับคู่กับเนื้อรมควัน หรือชีสเนื้อนุ่ม (Soft Chees) ได้ด้วย
Recommended Wine Glass: ไวน์หวาน (Dessert Wine) มักจะเสิร์ฟในแก้วช็อตเล็ก ๆ เช่น แก้วเซี่ยงไฮ้ โซล แกรปป้า (Grappa Wine Glass) และแก้วเซี่ยงไฮ้ โซล ลิเคียว (Shanghai Soul Liqueur) นอกจากนั้นแก้วเหล่านี้ยังทำมาจากคริสตัล (Cyrstal Glass) ซึ่งมีคุณสมบัติหลายอย่างดีกว่าแก้วทั่วไป คลิกเพื่ออ่านเพิ่มเติม
5. สปาร์คกลิ้งไวน์
เมื่อนึกถึง สปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine) หลายท่านอาจนึกงานปาร์ตี้ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เพราะไวน์ชนิดนี้มีสไตล์ที่เด่นชัด ด้วยรสสมผัสซ่าจากพรายฟองของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติในกระบวนการหมัก หรือถูกเติมเข้าไประหว่างการหมักก็ได้
สปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling) สามารถแยกย่อยลงไปได้อีก ตามพื้นที่ หรือแหล่งที่ผลิต (Region) เช่น “คาวา (Cava) จากสเปน (Spain)”, “อาสติ (Asti) หรือ โปรเซคโก้ (Prosecco) จากอิตาลี (Italy)” รวมถึง “แชมเปญ (Champagne) จากแคว้นชองปาญ ประเทศฝรั่งเศส (France)” ที่คนมักเข้าใจผิดว่าเป็นชื่อเรียกของสปาร์คกลิ้งไวน์ เป็นต้น (อ่านเรื่องแชมเปญ และแคว้นชองปาญ ได้ทีนี่)
Food Pairing: หากมีโอกาสจัดงานปาร์ตี้ ลองจับคู่สปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine) กับอาหารรสไม่จัดมาก เช่น สลัดผัก, ชีสเนื้ออ่อน (Soft Cheese) จนถึงชีสเนื้อแข็ง (Hard Cheese), อาหารจำพวกปลา และขนมปัง
Recommended Wine Glass: แก้วไวน์ (Wine Glass) ที่เหมาะกับไวน์สปาร์คกลิ้ง (Sparkling Wine) ย่อมไม่พ้นแก้วทรงสูงสง่า ซึ่งช่วยกักเก็บความเย็นไว้ในแก้ว และให้เราได้เพลิดเพลินกับพรายฟอง ได้แก่ แก้วไวน์ดีซายเอ้อร์ สปาร์คกลิ้ง (Desire Sparkling) หรือแก้วแชมเปญ (Champagne Glass) เป็นต้น
แม้ว่า ความรู้จากบทความนี้ จะช่วยให้ท่านสามารถเลือกไวน์ (Wine) ได้ด้วยตนเองแล้วประมาณหนึ่ง แต่หากท่านอยากศึกษาเพิ่มเติม เพื่อความเป็นมืออาชีพในเรื่องไวน์ (Wine) เราขอแนะนำให้ทานลองอ่านเรื่องราวของ พันธุ์องุ่นยอดนิยมที่ใช้ทำไวน์ (Grape Varieties) และแหล่งผลิตไวน์ (Wine Region) เพิ่มเติม แต่สำหรับใครที่กำลังมองหาแก้วไวน์ (Wine Glass) สวย ๆ เพื่อจิบคู่กับไวน์ขวดโปรด สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ผ่านทางเว็บไซต์ออนไลน์ชั้นนำของประเทศไทย ทั้ง 3 ช่องทาง ได้แก่ Wine-Now, Central และ Lazada ได้เลย